วันที่ 15 มีนาคม 2567
ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดโครงการประชุมสร้างการรับรู้นโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้เกษตรกร” พร้อม Kiick Off เปิดจุดรับซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกร จับมือภาคเอกชนเข้ามารับซื้อข้าวจากสหกรณ์ในราคาไม่ต่ำกว่า 10 บาท/กก.
เพื่อยกระดับราคาข้าวเปลือกของเชียงใหม่ให้มีเสถียรภาพ และมอบนโยบายให้กับข้าราชการและ
เจ้าหน้าที่หน่วยงานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในระดับพื้นที่ โดยมี นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ นายคีตวุฒิ นับแสง ผู้ตรวจราชการกรม
เขตตรวจราชการที่ 15 และ 16 นางสาวกมลวรรณ นุชัย สหกรณ์จังหวัดเชียงใหม่ ผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เกษตรกร กว่า 1,200 คน เข้าร่วมและให้การต้อนรับ ณ
ศูนย์รวบรวมและแปรรูปผลิตผลการเกษตร สหกรณ์การเกษตรสันป่าตอง จำกัด อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่
โอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบเงินตามโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ฤดูกาลผลิตปี 2566/67 ให้กับสหกรณ์ที่เข้าร่วมโครงการ 3 แห่ง ได้แก่ สหกรณ์การเกษตรพร้าว จำกัด สหกรณ์การเกษตรฝาง จำกัด และสหกรณ์นิคมพร้าว จำกัด วงเงิน 12.884 ล้านบาท จำนวนเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ 176 ราย ปริมาณข้าวเปลือกที่เข้าร่วมโครงการชะลอการขายข้าว กว่า 1,088 ตัน ซึ่งโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี เป็นการสนับสนุนสินเชื่อผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรเพื่อให้เกษตรกรและสถาบันเกษตรกรเก็บข้าวเปลือกไว้ในยุ้งฉางของตนเองในฤดูเก็บเกี่ยวเพื่อรอขาย ซึ่งระหว่างรอการขายข้าวเปลือก เกษตรกรที่ร่วมโครงการจะได้รับสินเชื่อเพื่อไว้ใช้จ่ายในครัวเรือนและลงทุนประกอบอาชีพทำการเกษตรอย่างต่อเนื่อง และเมื่อราคาข้าวเปลือกที่เก็บรักษามีราคาสูงขึ้นจนเป็นที่พอใจเกษตรกรก็สามารถมาไถ่ถอนนำข้าวเปลือกออกมาจำหน่ายได้ เพื่อให้ได้รับส่วนต่างของราคาและเกษตรกรจะมีรายได้เพิ่มมากขึ้น
จากนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบโล่ประกาศเกียรติคุณสหกรณ์ดีเด่นระดับภาค ประจำปี 2567 ให้สหกรณ์ 3 แห่ง ได้แก่ สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่เชียงใหม่ – ลำพูน จำกัด สหกรณ์การเกษตรโครงการหลวงดอยอินทนนท์ จำกัด และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคุรุสภาอำเภอเมืองเชียงใหม่ จำกัด รวมถึงมอบโฉนดเพื่อการเกษตรให้แก่เกษตรกร 300 ราย ที่ได้รับอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์และทำการเกษตรในพื้นที่เขตปฏิรูปที่ดินของ ส.ป.ก.
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ยังได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันดำเนินมาตรการเพื่อเตรียมพร้อมรองรับผลผลิตข้าวนาปรัง ปีการผลิต 2566/67 ซึ่งคาดว่าเกษตรกรจะเริ่มเก็บเกี่ยวตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน 2567 นี้ มอบหมายให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ โดยสำนักงานสหกรณ์จังหวัดเชียงใหม่ประสานสหกรณ์การเกษตรในพื้นที่ทั้งหมด 7 อำเภอ ที่มีอุปกรณ์ฉาง ลานตาก และโรงสี พร้อมสำหรับเปิดจุดรับซื้อและรวบรวมข้าวเปลือกนาปรังจากเกษตรกร และมอบหมายให้กรมการข้าว ประสานผู้ประกอบการเอกชน จำนวน 6 ราย เข้ามารับซื้อข้าวเปลือกในราคาไม่ต่ำกว่า 10 บาท/กก. (ความชื้นไม่เกิน 25%) เพื่อยกระดับราคาข้าวเปลือกของเชียงใหม่ให้มีเสถียรภาพ
ทั้งนี้ สหกรณ์ที่เข้าร่วมโครงการเปิดจุดรับซื้อและรวบรวมข้าวเปลือกนาปรัง ปีการผลิต 2566/67 จำนวน 9 แห่ง ได้แก่ สหกรณ์การเกษตรสันป่าตอง จำกัด สหกรณ์การเกษตรแม่ริม จำกัด สหกรณ์การเกษตรดอยสะเก็ด จำกัด สหกรณ์นิคมแม่แตง จำกัด สหกรณ์การเกษตรหางดง จำกัด สหกรณ์นิคมพร้าว จำกัด สหกรณ์การเกษตรพร้าว จำกัด สหกรณ์การเกษตรฝาง จำกัด สหกรณ์การเกษตรโหล่งขอดสามัคคี จำกัด ซึ่งการขับเคลื่อนมาตรการเพื่อรองรับผลผลิตข้าวนาปรัง ทั้งการเปิดจุดรวบรวมข้าวเปลือกและประสานกับโรงสีเอกชนเข้ามารับซื้อข้าว เพื่อช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรในฤดูกาลเก็บเกี่ยวที่จะถึงนี้นั้น นับว่าสหกรณ์การเกษตรมีบทบาทสำคัญในการสร้างโอกาสทางการตลาดให้กับสินค้าการเกษตรโดยเฉพาะข้าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงพยายามผลักดันและสนับสนุนให้สหกรณ์เป็นศูนย์รวบรวมและจำหน่ายผลผลิตที่มีคุณภาพแก่ประชาชนทั่วไป รวมถึงทำหน้าที่เป็นผู้ให้บริการทางการเกษตรสินค้าข้าวแบบครบวงจร และยกระดับสหกรณ์ให้ก้าวสู่การเป็นผู้ประกอบการธุรกิจเกษตรต่อไปในอนาคต